บทที่ 3: เสียงกระซิบจากอดีต
“คุณปู่ครับ อาร์ยามีอะไรจะถาม” อาร์ยาเริ่มบทสนทนา
ปู่ของเขาลดหนังสือพิมพ์ลงและมองมาที่อาร์ยาด้วยสายตาที่อ่อนโยน “มีอะไรเหรอหลาน ทำไมวันนี้ทำหน้าตาจริงจังแบบนั้น”
อาร์ยานำกล่องดนตรีเก่าๆ ออกมาจากกระเป๋าของเขาและยื่นให้ปู่ของเขาดู “คุณปู่ครับ คุณปู่รู้ไหมว่ากล่องดนตรีนี้เป็นของใคร”
ปู่ของเขารับกล่องดนตรีนั้นมาและพิจารณามันอย่างละเอียด ดวงตาของเขาดูเหมือนจะมีน้ำตาคลอเล็กน้อยเมื่อมองไปที่ลวดลายสลักเสลาบนกล่อง อาร์ยารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของปู่เขา
“หนูไปเจอ กล่องดนตรีนี้มาจากไหน อาร์ยา” ปู่ของเขาถามด้วยเสียงเบา
“อาร์ยาเจอในห้องใต้หลังคาครับคุณปู่ หลังกองหนังสือเก่าๆ” อาร์ยาตอบ
ปู่ของเขาถอนหายใจยาวก่อนจะตอบ “กล่องดนตรีนี้… สมัยก่อนเป็นของป้าหนู ชื่อ ริสา”
อาร์ยารู้สึกตกใจ เขาไม่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับป้าของเขาที่ชื่อริสาเลย เท่าที่เขารู้ ปู่ของเขามีลูกแค่คนเดียวคือพ่อของเขา
“ป้าหนูริสาเหรอครับคุณปู่ ทำไมอาร์ยาไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเธอเลย” อาร์ยาถามด้วยความสงสัย
ปู่ของเขากลับมาถอนหายใจอีกครั้ง “มันเป็นเรื่องเก่าแก่แล้ว อาร์ยา เรื่องที่ปู่ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ริสา… เธอไม่อยู่แล้วตั้งแต่หนูยังเด็ก”
“เสียชีวิตเพราะอะไรครับคุณปู่” อาร์ยาถามอีกครั้งด้วยความอยากรู้มากขึ้น
ปู่ของเขาเงียบไปครู่หนึ่ง ราวกับกำลังหาคำพูดที่เหมาะสม “ริสา… เธอถูกฆาตกรรม มันเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว”
อาร์ยารู้สึกตกใจทันที ถูกฆาตกรรมเหรอ ป้าของเขาถูกฆาตกรรมเหรอ ทำไมเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
“ใครฆ่าครับคุณปู่ จับคนร้ายได้หรือยัง” อาร์ยาถามรัวๆ
ปู่ของเขา ส่ายศีรษะอย่างเศร้าสร้อย “นั่นแหละปัญหา อาร์ยา จนถึงตอนนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้เลย คดีฆาตกรรมริสายังคงเป็นปริศนาอยู่”
อาร์ยาเงียบไป เขาไม่คาดคิดว่ากล่องดนตรีที่เขาพบในห้องใต้หลังคาจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในอดีตของครอบครัวเขา ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงเงาผู้หญิงในกระจกห้องนอนของเขาขึ้นมา มันเป็นไปได้ไหมว่าเงาเงา นั้นคือวิญญาณของป้าของเขา ริสา
“คุณปู่ครับ” อาร์ยาพูดอย่างระมัดระวัง “ตั้งแต่ อาร์ยาเจอกล่องดนตรีนี้ อาร์ยามักจะเห็นเงาประหลาดในกระจกห้องนอนของ อาร์ยา เงาของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเป็นไปได้ไหมว่า… นั่นคือวิญญาณของป้าหนูริสา”
ปู่ของเขามองมาที่อาร์ยาด้วยสายตาตกใจ “หนูเห็นเงาในกระจกเหรอ ทุกครั้งที่หนูเล่นกล่องดนตรีนั้น?”
อาร์ยาพยักหน้ายืนยัน ปู่ของเขาดูตกใจมากและหน้าซีดเล็กน้อย
“อาร์ยา หนูต้องระวังกล่องดนตรีนั้นให้ดี” ปู่ของเขากล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “บางทีอาจจะมีสิ่งไม่ดีบางอย่างผูกพันอยู่กับสิ่งนั้นก็ได้”
“แต่คุณปู่ครับ” อาร์ยาแย้ง “บางทีวิญญาณของป้าหนูริสาอาจจะปรากฏตัวเพื่อบอกอะไรบางอย่างกับเราก็ได้ บางทีเธออาจจะอยากให้เราช่วยตามหาคนที่ฆ่าเธอ”
ปู่ของเขาเงียบไปอีกครั้ง เขาดูเหมือนกำลังคิดอย่างหนัก หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็มองมาที่อาร์ยาด้วยสายตาที่จริงจังมากขึ้น
“ถ้ามันเป็นวิญญาณของริสาจริงๆ บางทีเธออาจจะมีเหตุผลที่ปรากฏตัวให้หนูเห็น แต่เราต้องระวัง อย่าให้เราต้องตกอยู่ในอันตราย”
จากนั้นปู่ของเขาก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับป้าหนูริสาเล็กน้อย เขาบอกว่าริสาเป็นเด็กสาวที่ร่าเริงและมีพรสวรรค์ในการเล่นดนตรี เธอชอบกล่องดนตรีนั้นมากและมักจะเล่นมันในห้องนอนของเธอ ห้องนอนของริสาในอดีตคือห้องนอนของอาร์ยาในปัจจุบัน กระจกบานใหญ่ที่บานประตูตู้เสื้อผ้าก็มีมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว
“สมัยก่อน ริสามักจะส่องกระจกบานนั้นพร้อมกับฟังเพลงจากกล่องดนตรีของเธอ” ปู่ของเขากล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย “เธอมักจะบอกว่าเธอรู้สึกเหมือนมีโลกอีกใบอยู่เบื้องหลังกระจกบานนั้น”
อาร์ยารู้สึกขนลุกเมื่อได้ยินเรื่องราวของปู่เขา สิ่งที่ป้าของเขาเคยพูดไว้เมื่อก่อนกลายเป็นจริงแล้วหรือนี่ มีโลกอีกใบอยู่เบื้องหลังกระจกห้องนอนของเขาจริงๆ หรือไม่ และกล่องดนตรีนั้นเป็นกุญแจสำคัญหรือไม่ อาร์ยามั่นใจมากขึ้นว่าเขาต้องค้นหาความจริงเบื้องหลังความลึกลับนี้ เพื่อป้าของเขา และเพื่อความสงบสุขของครอบครัวเขา