บทที่ 2: ร่องรอยในความทรงจำ

นัทพยายามช่วยเหลือธีอย่างเต็มที่ เขาช่วยธีค้นหาข้อมูลต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับและปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ พวกเขาไปปรึกษาผู้ที่มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ บางคนบอกว่าเป็นเรื่องของจิตใจ บางคนบอกว่าเป็นคำสาป หรืออาจจะเป็นวิญญาณที่ต้องการสื่อสารบางอย่าง แต่ไม่มีใครสามารถระบุได้ว่าเงาที่ตามธีอยู่นั้นคืออะไรกันแน่
ความกดดันเริ่มทวีคูณขึ้น ธีรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในเขาวงกตที่มืดมิด หาทางออกไม่เจอ ความหวาดระแวงเริ่มกัดกร่อนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนรอบข้าง เขาเริ่มหวาดกลัวแม้กระทั่งเงาของตัวเองในบางครั้ง เพราะเขาไม่แน่ใจว่าเงาไหนคือเงาของเขา และเงาไหนคือเงาปริศนาที่คอยตามติด
คืนหนึ่ง ขณะที่ธีนั่งจ้องมองเงาที่ทอดตัวอยู่บนผนังห้อง แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้เห็นรายละเอียดของเงาได้ชัดเจนขึ้น ธีสังเกตเห็นว่ารูปร่างของเงานั้นดูคุ้นตา เหมือนกับเขาเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อน ความทรงจำบางอย่างเริ่มแวบเข้ามาในหัวของเขา เป็นภาพที่เลือนลาง ไม่ชัดเจน แต่ให้ความรู้สึกที่หนักอึ้งและเศร้าสร้อย
เขาพยายามเค้นสมองอย่างหนัก เพื่อดึงความทรงจำที่ซ่อนลึกอยู่ในจิตใจออกมา เขาใช้เวลาทั้งคืนในการครุ่นคิดถึงอดีต พยายามเชื่อมโยงภาพที่แวบเข้ามากับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น จนกระทั่งในที่สุด ภาพหนึ่งก็ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน มันเป็นภาพของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาในวัยเด็ก เด็กคนนั้นมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเงาที่ตามเขาอยู่ตอนนี้อย่างน่าประหลาด
ความทรงจำเริ่มไหลบ่าเข้ามา ราวกับเขื่อนที่พังทลาย ธีจำได้ว่าตอนเด็กๆ เขามีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ชื่อว่า เต (Tae) พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน เล่นด้วยกัน กินด้วยกัน ไปโรงเรียนด้วยกัน เตเป็นเด็กที่เงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่เป็นเพื่อนที่ดีและจริงใจกับธีเสมอ แต่แล้ววันหนึ่ง เตก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ธีเสียใจมากกับการหายตัวไปของเต และความรู้สึกผิดก็ยังคงตามหลอกหลอนเขามาจนถึงทุกวันนี้
ธีเริ่มสงสัยว่าเงาที่ตามเขาอยู่นั้นอาจจะเป็นวิญญาณของเต หรืออาจจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเตในอดีต เขาตัดสินใจที่จะสืบหาความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเตเมื่อหลายปีก่อน บางที คำตอบของปริศนาทั้งหมดอาจจะซ่อนอยู่ในความทรงจำที่เขาพยายามจะลืมเลือนไปนานแล้วก็ได้