บทที่ 2: ความจริงใต้แสงจันทร์

เธอลองค้นใน Google ด้วยคำว่า “อาสาสมัครชื่อธันวา โรงพยาบาลเชียงใหม่” แต่ไม่เจออะไรที่เกี่ยวข้อง
จู่ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ว่ามีข่าวเก่าเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้เมื่อสามปีก่อนในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลนี้
เธอค้นหาข่าวเหตุการณ์นั้น แล้วพบสิ่งที่ทำให้เธอชะงัก
“ชายหนุ่มอาสาสมัครเสียชีวิตขณะช่วยคนไข้ในเหตุเพลิงไหม้”
ชื่อของเขาคือ...“ธันวา อภิชา”
เธอเบิกตากว้าง — รูปถ่ายในข่าวเป็นใบหน้าคุ้นตา รอยยิ้มอ่อนโยน ดวงตาเงียบขรึม
ใช่...เขาคือคนเดียวกับที่เธอเจออยู่ทุกวัน
วันต่อมา เธอตัดสินใจถามตรงๆ ระหว่างที่เจอเขาใต้ต้นก้ามปู
“ธันวา...ฉันรู้แล้วว่านายคือใคร”
เขานิ่งไป ดวงตาไม่แปลกใจเลย
“ฉันเห็นข่าวเมื่อสามปีก่อน...นาย...”
“ใช่” เขาตอบเบาๆ “ผมเสียชีวิตในคืนนั้น”
มายด์ใจเต้นแรง เธอรู้สึกทั้งกลัวและสงสารในเวลาเดียวกัน
“แล้วทำไมนายถึงยังอยู่ที่นี่?”
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า ราวกับกำลังมองหาแสงดาวที่ไม่มีใครเห็น
“ผมไม่แน่ใจนัก...แต่อะไรบางอย่างผูกผมไว้กับที่นี่ ผมไม่เคยข้ามไปไหนได้เลย — เหมือนมีบางอย่างที่ยังไม่จบ”
“แล้วทำไมฉันถึงเห็นนาย?”
“คุณเป็นคนแรก...ที่คุยกับผม ตอบผม รับรู้ผม เหมือนคุณ...มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น”
มายด์กลืนน้ำลาย หัวใจเหมือนถูกบีบ
“แล้ว...ความรู้สึกที่ฉันมีต่อนาย มันจริงไหม?”
ธันวาหันมาสบตาเธอ
“จริง — แม้ว่าผมจะไม่มีตัวตนแล้ว แต่หัวใจผมยังรู้สึก ยัง...รักได้”
คำว่ารักนั้นเหมือนคำสาป ทั้งอบอุ่นและเจ็บปวด
เธอยิ้มทั้งน้ำตา “นายรู้ไหม ว่ามันทรมานแค่ไหนที่ต้องรักใครที่กอดไม่ได้”
เขายิ้มจางๆ แล้วเอื้อมมือจะจับมือเธอ — แต่มือของเขาทะลุผ่านมือของเธอเบาๆ เหมือนเงา
เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
หลายวันหลังจากนั้น มายด์พยายามหาเบาะแสเกี่ยวกับอดีตของธันวา
เธอได้พบกับ “แม่ของเขา” ที่ยังคงมานั่งเงียบๆ ทุกวันที่ม้านั่งต้นก้ามปู ราวกับรอใครบางคน
“แม่เขาบอกว่า ธันวาอยากเป็นหมอ แต่ไม่มีโอกาสเรียน เพราะต้องดูแลครอบครัว”
“เขาเลยเป็นอาสาสมัครที่นี่แทบทุกคืน”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หัวใจของมายด์ยิ่งเจ็บ — เขาไม่เคยมีโอกาสได้ใช้ชีวิตแบบคนอื่น
คืนนั้น มายด์กลับไปที่ต้นก้ามปูอีกครั้ง — และพบเขายืนรออยู่
“ฉันอยากช่วยนาย...ให้ไปในที่ที่ควรอยู่”
“คุณจะทำได้เหรอ?” ธันวาถามเบาๆ
“ได้สิ...” เธอยิ้มทั้งน้ำตา “แค่บอกมาว่า...มีอะไรที่ยังไม่จบ?”
ธันวาเงียบไปนาน ก่อนตอบว่า
“แม่ของผม...ผมอยากให้เธอรู้ว่า ผมไม่เสียชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์...ผมอยากให้เธอภูมิใจในตัวผม”
“งั้นฉันจะเป็นปากเป็นเสียงให้นายเอง”
วันรุ่งขึ้น มายด์เขียนจดหมายถึงแม่ของธันวา และเล่าถึงทุกครั้งที่เขาช่วยผู้ป่วย แม้ในวันที่ไม่มีใครเห็น
เธอบอกว่า “เขาเป็นมากกว่าอาสาสมัคร — เขาเป็นแสงเงาที่คอยดูแลคนเจ็บป่วย แม้ในวันที่ไม่มีร่างกายแล้วก็ตาม”
แม่ของธันวาน้ำตาไหล — และกระซิบบอกต้นก้ามปูว่า
“กลับบ้านได้นะลูก แม่รู้แล้วว่าลูกเก่งแค่ไหน...แม่ภูมิใจในตัวลูก”
คืนนั้น...มายด์รอธันวาใต้ต้นไม้เหมือนทุกครั้ง
เขายิ้มให้เธอ แต่น้ำตาเอ่อล้นในแววตา
“ผมคงต้องไปแล้ว...”
เธอสั่นศีรษะ น้ำตาไหล “ฉันยังไม่อยากให้นายไป”
“แต่ผมอยู่ต่อไม่ได้แล้ว...” เขาก้าวเข้ามาใกล้ แล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย
“ผมรักคุณ...ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้ว่าแม้ในความตาย หัวใจก็ยังเต้นได้”
เธอร้องไห้จนพูดไม่ออก ขณะที่ร่างของเขาเริ่มจางลงไปกับแสงจันทร์